สารจากผู้อำนวยการ

              ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับ สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา ทั้งในแง่มุมของการยกระดับความสามารถและการจัดการของงานตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬา ให้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมีการพัฒนาประมวลกฎต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ขึ้นมาเพื่อบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพื่อส่งเสริมการเฝ้าระวังมิให้มีการใช้สารต้องห้ามในกีฬาทุกรูปแบบ รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งผลจากความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของบุคลากรของสถาบันฯและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการกลับมาเป็นห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล 1 ใน 30 แห่งทั่วโลก ส่งผลให้ได้รับการ reaccreditation อีกจาก WADA ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564

              ทางสถาบันฯเชื่อมั่นว่าการเติบโตของงานตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬาอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เกื้อหนุนกิจกรรมวิจัยจากคู่ความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาต้นทุนมนุษย์ และการสร้างนวัตกรรมการวิจัยเพื่อรองรับการตรวจวิเคราะห์สารต้องห้ามในนักกีฬาในอนาคต

              นอกจากนี้ สถาบันฯยังได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการต่อยอดความรู้ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมเพื่อให้สอดคล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของประเทศชาติ ประชาชน และการก้าวต่อไปในการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนในยุคใหม่อย่างมั่นคง

              The Analytical Sciences and National Doping Test Institute (ASNDTI) has navigated a challenging period over the past three years, dedicated to advancing its mission in anti-doping testing amidst the global COVID-19 pandemic. Through rigorous efforts to enhance both analytical testing capabilities and quality management, ASNDTI has maintained its position as one of only 29 laboratories (https://www.wada-ama.org/en/what-we-do/science-medicine/laboratoriesbrowsed October 29, 2024) globally accredited by the World Anti-Doping Agency (WADA).

              This accreditation is pivotal as WADA sets stringent standards for testing to prevent banned substances in sports, and ASNDTI’s reaccreditation on August 26, 2021, reaffirms its commitment to clean sport. The accomplishment also highlights the resilience and expertise of ASNDTI’s staff and stakeholders who ensured continuity in testing standards despite pandemic-related disruptions, securing ASNDTI’s role as a critical part of the international anti-doping framework.

             The institute believes that sustainable growth in anti-doping testing requires collaboration to build an ecosystem that supports research activities with both domestic and international partners. This leads to the development of human capital and the creation of innovative research to support future anti-doping testing.

             Additionally, the institute emphasizes education and knowledge-sharing activities that have a positive impact on society, in line with Mahidol University’s mission: to excel in health, sciences, arts, and innovation with integrity for the betterment of Thai society and the benefit of mankind.

ข้อตกลง หลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียน / แนะนำติชม

  1. ห้ามพาดพิงหรือเสนอแนะเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์
  2. ห้ามมีเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย คำด่า ข้อความลามกอนาจาร ข้อความที่ขัดต่อกฏหมาย หรือ ศีลธรรมอันดีงาม
  3. ห้ามพาดพิง หรือมีเจตนาก่อให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียต่อบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร
  4. กรุณากรอกข้อมูลตามความเป็นจริง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัย ใช้ข้อมูลนี้ในการติดต่อท่าน
  5. หากท่านร้องเรียนผ่านช่องทางนี้ ทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัย จะดำเนินการตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง แนวทางการจัดการข้อร้องเรียน พ.ศ 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

คำแนะนำ

การติดต่อสอบถาม / ชมเชย / เสนอแนะ / ร้องเรียน ควรมีรายละเอียดให้ครบถ้วนตามที่กำหนด ดังนี้

  1. ควรป้อนข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อ – สกุล ที่อยู่ โทรศัพท์ และ อีเมล (e-mail ) ของผู้ส่งที่สามารถติดต่อได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการติดต่อกลับ และ ยืนยันข้อมูลการร้องเรียน หรือ ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้ชัดเจน สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพื่อรายงานผลกลับไปยังท่านต่อไป
  2. สำหรับข้อมูลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างที่สุด
  3. กรณีที่ไม่เปิดเผยชื่อ – สกุลจริง ถือว่าเป็น บัตรสนเท่ห์” ซึ่งหากไม่ระบุพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัยอาจไม่รับ หรือ ยกเรื่องร้องเรียนดังกล่าวขึ้นพิจารณาได้

การพิจารณาในการกำหนดชั้นความลับและคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้อง

การพิจารณาในการกำหนดชั้นความลับ และคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544  และการส่งเรื่องให้หน่วยงานพิจารณานั้น ผู้ให้ข้อมูล ผู้ร้องและผู้ถูกร้อง อาจจะได้รับความเดือดร้อน เช่น ข้อร้องเรียนกล่าวโทษ ในเบื้องต้นให้ถือว่าเป็นความลับทางราชการ การแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล ต้องปกปิดชื่อและที่อยู่ผู้ร้อง หากไม่ปกปิดชื่อ ที่อยู่ ผู้ร้องจะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ร้องด้วย

ข้อตกลง หลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียน / แนะนำติชม

  1. ห้ามพาดพิงหรือเสนอแนะเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์
  2. ห้ามมีเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย คำด่า ข้อความลามกอนาจาร ข้อความที่ขัดต่อกฏหมาย หรือ ศีลธรรมอันดีงาม
  3. ห้ามพาดพิง หรือมีเจตนาก่อให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียต่อบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร
  4. กรุณากรอกข้อมูลตามความเป็นจริง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัย ใช้ข้อมูลนี้ในการติดต่อท่าน
  5. หากท่านร้องเรียนผ่านช่องทางนี้ ทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัย จะดำเนินการตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง แนวทางการจัดการข้อร้องเรียน พ.ศ 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

คำแนะนำ

การติดต่อสอบถาม / ชมเชย / เสนอแนะ / ร้องเรียน ควรมีรายละเอียดให้ครบถ้วนตามที่กำหนด ดังนี้

  1. ควรป้อนข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อ – สกุล ที่อยู่ โทรศัพท์ และ อีเมล (e-mail ) ของผู้ส่งที่สามารถติดต่อได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการติดต่อกลับ และ ยืนยันข้อมูลการร้องเรียน หรือ ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้ชัดเจน สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพื่อรายงานผลกลับไปยังท่านต่อไป
  2. สำหรับข้อมูลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างที่สุด
  3. กรณีที่ไม่เปิดเผยชื่อ – สกุลจริง ถือว่าเป็น บัตรสนเท่ห์” ซึ่งหากไม่ระบุพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ทางสถาบันฯ/มหาวิทยาลัยอาจไม่รับ หรือ ยกเรื่องร้องเรียนดังกล่าวขึ้นพิจารณาได้

การพิจารณาในการกำหนดชั้นความลับและคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้อง

การพิจารณาในการกำหนดชั้นความลับ และคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544  และการส่งเรื่องให้หน่วยงานพิจารณานั้น ผู้ให้ข้อมูล ผู้ร้องและผู้ถูกร้อง อาจจะได้รับความเดือดร้อน เช่น ข้อร้องเรียนกล่าวโทษ ในเบื้องต้นให้ถือว่าเป็นความลับทางราชการ การแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล ต้องปกปิดชื่อและที่อยู่ผู้ร้อง หากไม่ปกปิดชื่อ ที่อยู่ ผู้ร้องจะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ร้องด้วย